คุณยังไม่มีสินค้าในรถเข็น
4 เทคนิคการวางไมค์แบบสเตอริโอ
8 ก.ย. 2018 00:37:42
4 เทคนิคการวางไมค์สเตอริโอ
1. Spaced Pair
-ใช้ไมค์โครโฟนที่มีรูปแบบการรับเสียง Cardioid หรือ Omni จำนวน 1 คู่
-วางไมค์ขนานกัน โดยให้หัวไมค์ชี้ไปยังแหล่งกำเนิดเสียง
-ระยะห่างระหว่างไมค์ ประมาณ 1 เมตร ถึง 3 เมตร
-ระยะห่างจากแหล่งเสียง ลองใช้อัตราส่วน 3:1 ในการหาระยะ เช่น ถ้าไมค์อยู่ห่างกัน 1 เมตร ไมค์โครโฟนคู่นี้ควรมีระยะห่างจากแหล่งเสียง ประมาณ 33 เซนติเมตร
-เมื่อ Pan แทรค ซ้ายสุดขวาสุด การวางไมค์ลักษณะนี้จะให้มิติของแหล่งเสียง กว้างมาก เหมาะสำหรับเสียงที่ต้องการความกว้างเป็นพิเศษ ในแทรค หรือเพลงนั้นๆ
-การตั้งไมค์ลักษณะนี้พบได้บ่อยกับ Drums Overhead, Acoustic Guitar, Piano.
-ควรระวังปัญหาเรื่อง Phase Cancellation, Comb Filtering
2. X-Y (Coincident)
-ใช้ไมค์โครโฟนที่มีรูปแบบการรับเสียง Cardioid จำนวน 1 คู่
-วางตำแหน่งให้หัวไมค์ทับกัน ทำมุม 90°-135° ชี้ไปยังแหล่งกำเนิดเสียง
-มิติเสียงที่ได้จะไม่กว้างมาก เมื่อ Pan แทรค ซ้ายสุดขวาสุด เนื่องจากเสียงเดินทางมาถึงหัวไมค์ในเวลาที่ใกล้เคียงกัน แต่จะช่วยลดปัญหา Phase Cancelling ได้ดี
-การวางไมค์ลักษณะนี้ เหมาะสำหรับเสียงที่ไม่ได้ต้องการความกว้างมาก แต่ต้องการความเป็นสเตอริโอในแทรค เช่น Room, Percussion, Solo Instrument.
3. ORTF (Office de Radiodiffusion Télévision Française)
-ใช้ไมค์โครโฟนที่มีรูปแบบการรับเสียง Cardioid จำนวน 1 คู่
-วางตำแหน่งให้หัวไมค์ห่างจากกัน ทำมุมไม่เกิน 110° ห่างจากกัน 17เซนติเมตร ชี้ไปยังแหล่งกำเนิดเสียง
-การวางไมค์ลักษณะนี้ เป็นการวางเลียนแบบลักษณะของหูมนุษย์ ทั้งระยะห่างของหู และองศาของการได้ยิน ทำให้ได้มิติเสียงที่ใกล้เคียงธรรมชาติที่สุด
4. Mid-Side (M/S)
-ใช้ไมค์โครโฟนที่มีรูปแบบการรับเสียง Cardioid หรือ Omni 1ตัวและ Bi-Directional (figure 8)อีก 1ตัว
-วางตำแหน่งไมค์ Cardioid ชี้ตรงไปยังแหล่งเสียง (Mid) และวางไมค์ Bi-directional ไว้ข้างใต้ไมค์ตัวแรกให้ใกล้กันที่สุด โดยที่ตำแหน่งรับเสียงด้านหน้าและหลังของไมค์ชี้ไปทางซ้ายและขวาของแหล่งเสียง (Side)
-หลังจากบันทึกเสียงลง DAW ไปแล้ว ให้ทำตามขั้นตอน ดังนี้
1. Pan ไมค์ (Mid) ไว้ตรงกลาง
2. Copy แทรคไมค์(Side) อีก1แทรค และ Pan แยกซ้ายสุดขวาสุดออกจากกัน
3. กลับ Phase หรือ Process แทรค (Side) ที่แทรคแรกให้ Phase 180° กลับกัน
4. Link fader ของ แทรค (Side +,-) ทั้งคู่เพื่อให้สะดวกต่อการ Balance.
-เมื่อต้องการมิติที่กว้างขึ้น เพียงเพิ่มความดังของ แทรค (Side) ในทางกลับกัน ถ้าเพิ่มความดังของแทรค (Mid) มิติความกว้างก็จะแคบลง
-การวางไมค์ลักษณะนี้ เหมาะกับสื่อที่อาจจะเป็น Mono เมื่อเผยแพร่ เช่น ทีวี วิทยุ
เป็นยังไงกันบ้างครับ กับเทคนิคดีๆ ที่เรามาบอกต่อให้เพื่อนๆ หวังว่าคงจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ ไม่มากก็น้อยครับ อย่าลืมเเชร์ทิปดีๆให้เพื่อนๆกันด้วยนะครับ
Inbox : m.me/kimlengaudio
Line@ : http://line.me/ti/p/~@kimlengaudio
Tel : 02-312-0009, 086-351-8400