พูดคุย เม้ามอยกับพี่ต้น Silly Fools หลังจากไปเรียนมิกซ์เสียงกับ Chris Lord-Alge มา

CLA 3-DAY MIXING SEMINAR
23-25 FEB 2018
at STUDIO28 BKK, Thailand

 *Chris Lord Alge ‘Lord of the Mix’
โปรดิวเซอร์, ซาวด์เอนจิเนียร์ รางวัลแกรมมี่อวอร์ด
ผู้อยู่เบื้องหลังผลงานเพลงของศิลปินดังๆมากมาย อาทิ เช่น U2, Green Day, Celine Dion, Bruce Springsteen, The Rolling Stones, Eric Clapton,
Bon Jovi, Nickelback, My Chemical Romance, Avril Lavigne, MUSE, Paramore และอีกมากมาย

 

ความคาดหวังก่อนที่จะมาเรียนกับ Chris Lord-Alge ?

คาดหวังไว้ประมาณนึง จริงๆไม่ได้คาดหวังจะได้เห็นอะไรขนาดนี้ด้วย เพราะคิดว่าเวลาไม่เยอะ เวลาเรียนแค่ 3 วัน แล้วก็ยังไม่รู้ว่าเป็นไง

แต่เคยได้ฟังที่ก๊อก(เจ้าสำนักกิมเล้ง) เล่าว่า ตอนที่เคยไปเรียนที่ฝรั่งเศส กับบรรดาคนสอนที่ได้เคยไปเรียนทั้ง Tony Maserati, Chris Lord-Alge และ Tchad Blake มันก็จะได้ประมาณนึง

สำหรับงานนี้แค่คิดว่าได้เจอ Chris ก็คุ้มแล้ว เพราะว่าปกติคงยากที่จะได้เจอเขา

 

พอไปเรียนแล้วเป็นยังไง?

เกินความคาดหวังเราไปเยอะ ตอนแรกเค้ามิกซ์เพลงของ Greenday ให้ดูก่อน

ถ้าถามว่าตื่นเต้นประมาณไหน ซึ่งเราก็ตื่นเต้นประมาณนึง ก็อยากได้ยินเพลงจริงๆก่อนมิกซ์น่ะแหล่ะว่าเป็นยังไง ซึ่งฟังแล้วดีมาก เพราะ source ที่อัดมาน่ะดีมากอยู่แล้ว แทบจะไม่ต้องทำอะไรแล้ว

พอเค้ามิกซ์ปุ๊บ มันก็รู้สึกดีกว่าเดิมอีก มันเหมือนกับแผ่นที่เค้ามิกซ์เลย เหมือนเค้าสามารถ recall การมิกซ์ตัวเค้าเองได้โดยใช้หูของเค้าเอง ซึ่งอันนี้มันก็มหัศจรรย์แล้ว และในเรื่องของ Sound นี่แหล่ะ มันดีมาก

เสร็จปุ๊บ มันมาพีคตอนที่เริ่มมิกซ์เพลงไทย (ของวง Act Art) เท่านั้นแหล่ะ โอ้โห... เกินกว่าที่เราคิดไว้เยอะ เพราะว่าภายใน 3 ชม. นี่  เราได้เห็นการเปลี่ยนแปลงกับตาเห็นตั้งแต่เริ่มเลย

สิ่งที่เจ๋งอย่างนึงคือ เค้าจะไม่ฟังเพลงก่อน ตอน Edit จะให้ลูกมือจัด Track ไปจนเรียบร้อย เขาถึงจะเปิดเพลงฟังแล้วเริ่มมิกซ์เลย

เหตุผลคือ เค้าไม่อยากจะฟังเพลงเยอะ เค้าต้องการที่จะมีไอเดียในการมิกซ์ โดยไม่ต้องการให้ตัวเพลงมาควบคุมเค้า

เค้าต้องการที่จะเปิดเพลงปุ๊บ สามารถใส่ไอเดียในการมิกซ์ไปสดๆได้เลย

พอเปิดมาก็รู้สึกได้ถึงการเปลี่ยนแปลงเลยนะ ตั้งแต่เริ่ม จาก Sound ดีๆประมาณนึงแล้ว กลายเป็น Sound แบบมาตรฐานของเพลงฝรั่ง

เห็นทุกอย่างที่เค้าทำ บิดอะไร ดูได้หมด ขอแค่อย่าคุยกันเท่านั้น

มันรู้สึกดีมากเลยนะ ไม่นึกว่าเลยว่าเค้าจะมิกซ์เต็มที่ขนาดนี้ เพลงนึงมิกซ์จนเสร็จสมบูรณ์เลย
พอคราวนี้เพลงไทยผ่านไปเพลงแรกแล้ว ตื่นเต้นเลย อยากจะฟังเพลงไทยเพลงที่ 2 ละ

เพลงที่ 2 เพลงของพี่อิงค์ อชิตะ ซึ่งเพลงนี้ไปอัดที่ห้อง Ocean Way Recording (ปัจจุบันคือ United Recording) ซึ่งเป็นห้องมาตรฐานระดับโลกที่ศิลปินดังๆอัดกันมากมาย

ที่นี้เราก็ได้เห็นความแตกต่างในการทำงาน เพราะเพลงแรกอัดที่เมืองไทย เพลงนี้อัดที่นั่น Sound มันไปอีกระดับนึง พอเค้ามิกซ์เนี่ย จริงๆประทับใจเพลงนี้สุดเลยนะ

เพราะคนอัดให้เป็นนักดนตรีห้องอัดมือระดับโลก เล่นดีมาก พอมิกซ์ออกมาปุ๊บเนี่ย มันยิ่งกว่าเพลงแรกอีก เพราะด้วยคนเล่นด้วย

ส่วนตัวชอบเพลงนี้มาก เพราะมากๆ ถ้าถามว่าแค่ 2 เพลงนี้ เงินค่าเรียน 1 แสนที่ลงทุนไปคุ้มมั้ย คุ้มยิ่งกว่าคุ้มอีก

 

สิ่งที่ในคลาสนี้แตกต่างจากที่ต่างประเทศคือ

อย่างแรกคืออุปกรณ์ที่ใช้ในห้องสอน แอบได้ยินตอนเค้าปรับๆพึมพำว่า... เครื่องเหมือนที่เขามีเลยนี่หว่า..

(พวกเครื่องก็มีของเจ้าสำนักกิมเล้ง ของพี่ต้นและของพี่แฟงมาด้วย) ซึ่งก่อนมาเค้าบอกมาก่อนเลยว่า ต้องมีบอร์ด SSL ให้เค้า

เค้าก็มิกซ์บนบอร์ดเลย แล้วก็ได้เห็นสิ่งที่เค้าทำทุกอย่าง จากที่คุยกับก๊อกเนี่ย ที่ไปเรียนกับ Chris ที่เมืองนอกเนี่ย เครื่องยังไม่ขนาดนี้เลย

พวก outboard ที่จะใช้งานน้อยกว่านี้ เลยยังไม่เห็นเต็มที่ Chris เค้าก็มิกซ์เท่าที่เวลากับเครื่องที่มี ก็ได้เห็นประมาณนึง

 

Chris ทำให้ดูทุกขั้นตอน?

เห็นจะๆเลย ตั้งแต่เริ่มการจัด Track แต่ละ Track ในสไตล์ของ Chris ว่าจะจัดเรียงยังไง รวม Group ยังไงก่อน

ต่อมาเริ่มเอาเสียงผ่าน outboard แล้วมิกซ์บนบอร์ดทั้งหมด

พอเค้าเริ่มปรับเนี่ย มันเห็นความแตกต่างเลย ทุกอย่างมันเปลี่ยนทันตาเลย ตั้งแต่เสียงแรก เสียงที่ 2 เสียงที่ 3 เนี่ย มันดีขึ้นทันทีเลยนะ

แล้วเค้ามิกซ์เร็วมาก บางเพลงเนี่ย มิกซ์แค่ 2 ชม.เสร็จ เสร็จแบบว่า Sound มาตรฐานเพลง Mainstream ของฝรั่งเลย

แต่ว่า Source เป็นดนตรีเพลงไทยนี่แหล่ะ อัดที่ Kimleng Studio อัดที่ห้องอัด ToneTinToy Studio หรือของพี่ต้น สุวัธชัย ก็เตรียมเพลงมา

ทำให้พิสูจน์ได้ว่า ไม่ใช่ว่า Chris มิกซ์ดีเพราะว่าได้ Source ดีมาจากการอัดจากต่างประเทศจากห้องอัดแพงๆ

อย่างในคลาส มีเพลงนึงเป็นเพลงที่อัดที่บ้าน กลองโปรแกรมมา

คือถ้าเป็นปกติรับรองเลยว่า เค้าคงไม่รับทำอยู่แล้ว ถ้าไฟล์ที่อัดมาไม่ได้คุณภาพ เค้าคงต้องให้ไปทำใหม่ อัดใหม่

แต่นี่คือเค้าจะสอนเราน่ะแหล่ะ ถ้ามีเพลงแบบนี้มาเค้าจะจัดการยังไงให้ดู แทนที่เค้าจะปฏิเสธ

 

เพลงนี้เค้าทำต่อจนเสร็จ เค้าขอลงมือ Edit เองเลย แล้วเร็วมากกกก ไม่มีสะดุด ไม่มีชะงัก งานเดินหน้าไปอย่างเดียว ซึ่งน่าจะกลับมาทำเองในรอบ 30-40 ปี! ล่ะมั้ง

พอเค้าทำ แล้วมิกซ์ออกมามันฟังเพราะไปคนละเรื่องเลย มิติมันมี เพลงดูมีอารมณ์ขึ้นมาเลย จากเพลงแข็งๆทื่อๆ เค้าก็ทำให้มันมีชีวิตชีวาขึ้นมาได้เลย

และที่สำคัญก็คือ เราเห็นกับตาตั้งแต่ตอนที่เค้าทำตั้งแต่เริ่ม Edit เลย ซึ่งไม่น่าจะมีใครได้เคยเห็นเขาทำมานาน ซึ่งวันนี้มาได้เห็นก็รู้สึกทึ่งและไม่น่าเชื่อดี

 

สิ่งที่ได้กลับมา (แนวคิด มุมมองการทำงาน)

เรื่องมุมมองบางอย่างที่ไอเดียเรารู้สึกว่า โอเค เราก็มาถูกทางค่อนข้างเยอะเหมือนกัน แต่ก็มีบางอย่างที่รู้สึกว่า แบบนี้เลยเหรอ อย่างเช่น

กลองเนี่ย Snare เค้าไม่ใช้ Gate เลย!!! แล้วใช้ EQ อย่างเดียวแล้วก็ Comp

ซึ่งอันนี้แบบแปลกใจมาก คือปกติทั่วไปเราจะใช้กันบ้าง แต่เขาไม่ใช้เลย!!!

 

 

อะไรที่รู้สึกว่ามันเจ๋งๆมาก จากการที่ได้มาเรียนครั้งนี้

ที่เปิดโลกเลยคือเรื่อง Reverb คือเวลาที่เรามิกซ์เพลง เราฟังเพลงของคนอื่นเนี่ย การฟัง Reverb มันเป็นอะไรที่มันแกะยากอยู่แล้วว่าใช้อะไร

แล้วเราเห็นเลยว่า Chris เค้าใช้อะไร ตรงนี้แหล่ะที่ทำให้เราเข้าใจแล้วว่า อ๋อ Sound แบบที่ Chris ทำหรือฝรั่งคนอื่นทำที่เคยสงสัยว่า มันเป็นแบบนี้ได้ยังไง เขาใส่ Reverb แบบนี้ๆ นี่เอง

ซึ่งถือว่าเป็นตัว Secret สำหรับพี่เลยนะ เพราะตัวอื่นเรายังเข้าใจมาประมาณนึงแล้ว เราก็ฝึกมิกซ์อยู่เรื่อยๆ มีแค่บางจุดอย่างเช่นพวก Reverb นี่แหล่ะแกะยาก

แต่เราได้เห็นความลับเขาหมดเลยว่าเขาใช้อะไร ปรับยังไง ซึ่งถือว่าคุ้มค่ามาก

 

พูดถึงเพลง”แป๊ะอย่าร้อง” ที่พี่ส่งให้ Chris มิกซ์

เราก็อยากให้เค้ามิกซ์ให้ดูนะ จริงๆถ้ามีเพลงใหม่เราก็อยากให้เค้ามิกซ์นะ แต่พอดียังไม่มี ฮ่าๆ เลยเอาเพลงนี้ให้

วันที่ให้มิกซ์เนี่ย วันสุดท้ายเนี่ย Chris เค้ากะจะมิกซ์แค่ 3 เพลง แต่กลายเป็นว่ามิกซ์ 4 เพลงเลย จากจะเลิก 5 โมงเย็น กลายไปเลิกนู่น 5 ทุ่ม เค้าก็เต็มที่มาก

เปิดไฟล์มา จัดเรียง แต่เค้าก็ยังไม่เปิดฟังนะ เสร็จปุ๊บเค้าก็เปิดมิกซ์เลยนะ พอเห็นท่าเค้ามิกซ์นะ ดูเค้า enjoy มากเลยที่เห็นในวิดีโอ

https://www.facebook.com/kimlengacademy/videos/394326637694603/

 

หลายคนถามว่า เค้าได้ฟังเพลงมาสเตอร์เดิมของเพลง “แป๊ะอย่าร้อง” ก่อนไหม?

เค้าไม่ได้ฟังเลย ซึ่งเพลงนี้เราก็ภูมิใจว่า Chris ได้มิกซ์ให้เราถึงแม้ว่าจะเป็นเพลงที่ปล่อยไปแล้วก็ตาม

แล้วที่ภูมิใจอีก 2 อย่างเลยนะ คือมิกซ์เสร็จปุ๊บ เขาหันมาถามเลย เพลงนี้ใครเล่น? บอกเล่นกีตาร์ดีมาก ^^

อีกเรื่องคือเพลงนี้เป็นเพลงเดียวเลยที่เค้ามิกซ์แล้ว เค้าไม่ได้ใช้ Sample ของเค้าเลย เค้าบอกอัดกลองมาดีมากกกก ภูมิใจมากกกกก ^^

 

อยากให้ฝากถึงคนที่สนใจ กับคลาสเรียนของ Kimleng Academy

ถ้าคนที่สนใจ มีทุนทรัพย์และเวลา อยากให้มาลงเรียนกันครับ

สำหรับคนที่อยากมาแต่ไม่มีทุนทรัพย์ ก็เห็นใจ ก็ไม่เป็นไร เอาไว้ไปถามจากเพื่อนๆที่มาเรียนละกัน

แต่คนที่มีเงินและเวลาพร้อม แต่ไม่ยอมมาเพราะคิดว่าไม่คุ้ม แล้วมาบ่นเสียดายทีหลังพูดได้คำเดียวว่า "สมน้ำหน้าาาาา"  ฮ่าๆ

ยังไงก็ต้องมาให้ได้ เพราะก็ไม่รู้ว่าจะได้จัดอีกรึเปล่า

แต่ถ้าปีหน้าจัดอีก พี่ก็จะมาอีกนะ เพราะสนุกแล้วก็ได้อะไรเยอะมาก ใครอยากรู้อะไรถามเลย เค้าตอบให้ทุกคนเลย

"มันคุ้มค่ามากกว่าบินไปเรียนเมืองนอกมาก ทั้งอยู่ในบ้านเรา ถามตอบได้ มีคนช่วยแปลให้ เป็นกันเองกว่า
เครื่องอุปกรณ์ครบครันกว่า มิกซ์แบบเห็นกับตาเลยว่าทำอะไร บิดอะไร ทำให้ดูเลย"

 

สำหรับคนที่สนใจเวิร์คชอป การ Recording, Mixing, Mastering ฯลฯ

ติดตามหน้าเพจ Kimleng Academy กันไว้ให้ดีครับ มีคลาสเรียนที่น่าสนใจให้ติดตามกันอยู่เรื่อยๆครับ :)